"แอนนา" นางงามต้นทุนชีวิตต่ำ โตมาจากกองขยะ-ข้าวก้นบาตร แม่กวาดขยะส่งเรียนจนคว้าเกียรตินิยมมาได้

คอมเมนต์:

"แม้ใครจะบอกว่า เด็กไม่สมควรที่จะได้รับข้าวเช้าเป็นข้าวก้นบาตร แต่สำหรับหนูมันไม่ใช่ หนูมองว่าถ้าไม่มีข้าวก้นบาตรในวันนั้น คงไม่ทำให้หนูเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้" #แอนนาเสืองามเอี่ยม 30 คนสุดท้าย #นางสาวไทย2563 #MissThailand2020

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เป็นหนึ่งสาวที่น่าจับตามองมาก ๆ คนหนึ่งเลย หลังจากผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย นางสาวไทย 2563 สำหรับ "แอนนา เสืองามเอี่ยม" 

        หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้แอนนาได้ตอบคำถามในรอบออดิชั่นด้วยการเลือกหยิบชีวิตในวัยเด็กมาเปิดเผยกับคณะกรรมการ จนทำให้กลายเป็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก และถูกจับตามองในการเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้

 

Sponsored Ad

 

        ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้แอนนาได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของเธอผ่าน เฟซบุ๊ก บันดาลใจ ว่า "แม่แทบไม่มีอะไรให้เลย แต่สมบัติที่เขามีให้อย่างเดียวคือ การศึกษา แม่ผลักดันและพยายามทำงานเยอะ ๆ เพื่อส่งให้หนูเรียนจบ เขาเก่งมากค่ะ" แอนนาเล่าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

 

Sponsored Ad

 

        โดยแอนนาได้เล่าว่า ต้นทุนชีวิตของตนแทบไม่มีเลย แต่ต้นทุนอย่างเดียวที่ตนมีคือ "การศึกษา" 

        การศึกษามันช่วยสอนตนและช่วยผลักดันให้ตนมีอนาคตที่ดีขึ้น ตนอยากจะบอกกับทุก ๆ คนที่ต้นทุนชีวิตเหมือนตนหรือชีวิตที่ด้อยกว่าตนว่า ท้อแท้ได้ หมดกำลังใจได้ แต่อย่าหมดหวัง ต้องเชื่อว่าเราสามารถถีบตัวเองให้มันดีขึ้นกว่านั้นได้ และสิ่งเดียวที่จะทำให้เราดีขึ้นได้ก็คือการศึกษา เพราะเราไม่มีต้นทุนอื่นเลย

 

Sponsored Ad

 

        แอนนาเชื่อว่า ถ้าตั้งใจก็จะสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนมองตนเป็นตัวอย่าง ตนก็ไม่มีอะไรเลย ต้นทุนชีวิตแทบจะติดลบด้วยซ้ำ แต่ก็มุมานะ พยายาม กล้าที่จะคิด กล้าที่จะฝัน กล้าที่จะทำ เชื่อว่าทุก ๆ คนที่ดูอยู่ อยากให้มีกำลังใจในการศึกษา อยากให้ตั้งใจเรียนให้จบ แล้วจะค้นพบหนทางที่มันไม่ใช่ทางตันเหมือนตอนที่คุณเกิดมาแน่นอน

        นอกจากนี้คุณแม่ของสาวแอนนา ก็ยังมีโอกาสได้เปิดใจและพูดถึงลูกสาวคนเก่งว่า "ความรู้ของเขาค่ะ เช้ามาก็ไปกวาดขยะตั้งแต่เช้า เลิกเที่ยง แล้วก็ไปทำงานแม่บ้าน ได้ 9 พันกว่าบาท กวาดถนนได้ 19,000 บาท ไปทำงานต่ออีกก็ได้อีก 6 พันบาท 3 หมื่นกว่าก็ให้ลูก 1 หมื่นกว่าบาท และก็ใช้กินไม่อยากให้เขาอด 

 

Sponsored Ad

 

        ลูกสาวไม่เคยบ่น เขาตั้งใจเรียนมาก แม่ไม่เคยสอนการบ้านลูกเลย ลูกคิดเองทำเอง เขาสู้ เรียนจนเก่ง 500 คน ได้ท็อป สอบได้ที่ 1 แม่ภูมิใจมากค่ะ เขาเรียนได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ภูมิใจค่ะ ไปห้องลูกก็เห็นเหรียญที่เขาได้มา ดีใจมากเลย" คุณแม่ของสาวแอนนากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

 

Sponsored Ad

 

        โดยวัยเด็กแอนนาเล่าให้ฟังว่า ตนต้องอาศัยอยู่กับทวด เป็นแม่ของย่า ซึ่งทวดอายุเกือบ 90 ปี และเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดช่างเหล็ก โดยแอนนาเล่าแบบไม่อายว่า ชีวิตของตนนั้นเติบโตมาจากข้าวก้นบาตรพระ เนื่องจากแม่ต้องทำงาน 3 ที่ต่อวัน ทำให้เหนื่อยไม่มีเวลาที่จะหาอาหารหรือทำให้ทาน ช่วงที่แม่ไปทำงานตอนเช้า ตนจะอาศัยอยู่กับทวดที่เป็นแม่ชี จึงได้ข้าวก้นบาตรพระมาทานด้วย

        ถึงแม้คนอื่นจะบอกว่า เด็กไม่สมควรที่จะได้รับข้าวเช้าเป็นข้าวก้นบาตร แต่สำหรับตนมันไม่ใช่ ตนมองว่าถ้าไม่มีข้าวก้นบาตรในวันนั้น คงไม่ทำให้ตนเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้แอนนาก็ได้เผยว่า การที่ได้อยู่กับคนที่ถือศีล ทำให้ได้คำสอนบางอย่างมาปรับใช้กับชีวิตได้ อย่างเช่น หิริโอตตัปปะ การละอายต่อบาป มันสอนให้รู้จักว่าการที่จะทำอะไรต้องย้ำคิดย้ำทำก่อน ว่าสิ่งที่ทำจะไปเดือดร้อนต่อคนอื่นหรือไม่ เพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำจะเดือดร้อนต่อคนอื่นหรือไม่ ถ้าเกิดความกลัว ก็จะไม่ทำในสิ่งที่มันไม่ดี มันเลยนำทางให้ชีวิตของตนเดินทางสายกลางไม่ไปทางไม่ดี

Sponsored Ad

.

คุณทวดแท้ ๆ ที่เลี้ยงแอนนามา

.

.

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

        [อ่านข่าว : สตอรี่จับใจ "แอนนา เสืองามเอี่ยม" สาวไทยที่เติบโตมาจากกองขยะ เพชรเม็ดงามบนเวทีนางสาวไทย]

ที่มา : เฟซบุ๊ก บันดาลใจ

บทความที่คุณอาจสนใจ