สื่อต่างประเทศรายงานว่า อดีตดาราสาวไต้หวัน ที่รักการเต้นรำเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เด็ก กระทั่งตอนนี้กลายเป็นครูสอนเต้นรำอย่าง หลิวเจิน ได้แต่งงานกับนักร้องซิ่งหลง ชาวไต้หวันตั้งแต่ปี 2014 หลังแต่งงานก็มีลูกสาวแสนน่ารัก 1 คน ครอบครัว 3 คนมีความสุขกันอย่างมาก 

    เมื่อไม่นานมานี้หลิวเจินได้แบ่งปันเรื่องราวระหว่างสามีและภรรยาออกรายการทีวี หนึ่งในนั้นเธอได้พูดถึงการเอาอกเอาใจของสามีที่มีต่อเธอ ทำเอาพิธีกรชายที่คิดว่าตนเองโอ๋เมียหนักมากแล้วถึงกับเลี่ยนอยากอ้วนเลยทีเดียว!

.

     หลิวเจินเปิดเผย ก่อนหน้านี้ที่คลอดลูกและอยู่เดือนที่บ้าน อยากจะดูว่าตนเองตอนนี้น้ำหนักเพิ่มมาขึ้นเท่าไหร่ กลับสู่น้ำหนักเดิมแล้วหรือยัง? จึงไปหยิบชุดเต้นรำมาเพื่อลองใส่ดู แต่เธอใส่เข้าไปไม่ได้เลย ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนเธอเป็นคนรูปร่างดีมาก เธอยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้เสียใจ

    ในขณะนั้นสามีของเธอก็เดินเข้ามาพอดีพบสภาพที่เธอกำลังร้องไห้เสียใจ จึงพูดสั้นๆเพียงไม่กี่คำ แต่มันทำให้เธอประทับใจมิรู้ลืม

    สามีของเธอพูอย่างนุ่มนวลว่า “เมียจ๋า ชุดนั้นผมเป็นคนนำไปส่งซักเอง อาจเป็นเพราะชุดมันหด” ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากแม่ลูกอ่อนต้องพบเจอกับปัญหาด้านสุขภาพจิต ทำให้หดหู่อยู่บ่อยครั้ง ยากที่จะเดินออกมาจากจุดนั้นได้ บางครั้งก็ต้องวิ่งตามลูก จากเจ้าหญิงกลายเป็นคนรับใช้ซะงั้น? ในใจรู้สึกไม่ดีเลย

    ในตอนนั้นเองสามีก็เดินมาพูดกับเธออย่างนุ่มนวลว่า “เมียจ๋าหยุดแป๊บหนึ่งนะ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้คุณก็เหมือนภาพอันงดงามภาพหนึ่งนะ” คำพูดที่แสนหวานแหววของสามีทำให้สถานการณ์ตอนนั้นทุกคนแทบอยากอ้วก การอวดคุณสาและการเอาใจของเขาทำให้แขกรับเชิญคนอื่นๆถึงกับยกนิ้วให้สามีของเธอจริงๆ ที่อ่อนหวาน นุ่มนวลและปากหวานมาก ช่างโรแมนติกจริงๆเลย

    และดาราคนอื่นๆก็เล่าถึงความประทับใจและการเอาใจของสามีที่มีทีเด็ดไม่เหมือนกันมาเล่าสู่กันฟัง พวกเธอต่างบอกว่า คำพูดของสามีนั้นมีอิทธิพลมาก ฉะนั้นผู้หญิงอย่างเราก็ต้องหัดปากหวานบ้างนะ เพราะเราอยากให้สามีหวานกับเรา เราก็ต้องหวานตอบนะ

.

.

.

ที่มา:starfocus

แปลและเรียบเรียงโดย พันหมื่นเหตุผล