ชายวัย 49 ตัดสินใจ "แช่แข็ง" ร่างภรรยา หวังอีก 50 ปี จะชุบชีวิตคนรักกลับมาได้อีกครั้ง

คอมเมนต์:

"ผมไม่ได้บ้า.. ผมทำเพราะรัก และการแช่แข็งไม่ได้มีประโยชน์แค่กับครอบครัวเรา แต่มันยังช่วยแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางการแพทย์อีกด้วย" ผู้เป็นสามีกล่าว

        ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันโลกของเรามีการพัฒนาพัฒนาเทคโนโลยีกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็มีการเปิดเผยเรื่องราวของการรักษาสภาพร่างกายของร่างไร้วิญญาณให้มีความสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับการทำ "มัมมี่" แต่ต่างที่เป็นการแช่แข็งเอาไว้เพื่อรอเวลาที่จะนำกลับมาชุบชีวิตอีกครั้งในอนาคต

        เช่นเดียวกับที่ เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้ออกรายงานว่า นายเกว๋ย จวิ๋นหมิง (Gui Junmin) ชายชาวจีนวัย 49 ปีเสียนางจ้าน เวินเหลียน (Zhan Wenlian) ภรรยาผู้อายุเท่ากันไปเมื่อปีพ.ศ. 2560 และด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ เขาตัดสินใจแช่แข็งร่างของภรรยาด้วยวิธีไครโอนิก 

 

Sponsored Ad

 

        ที่เป็นการรักษาร่างกายที่อุณหภูมิติดลบ โดยเก็บร่างของภรรยาจะถูกเก็บรักษาอยู่ภายในถังไนโตรเจนเหลวขนาด 2,000 ลิตร อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส โดยมีอุปกรณ์ช่วยพยุงชีพ เพื่อรักษาระบบการทำงานสำคัญในร่างกายของเธอ

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งเขาทำการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง และหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ แต่เขาไม่ได้ตัดสินใจทำสิ่งนี้แต่เพียงผู้เดียว เพราะภรรยาของเขาได้ตกลงยินยอมให้ร่างกายของเธอถูกรักษาเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เธอยังมีลมหายใจ

        และหลังจากที่เธอจากไป นักวิทยาศาสตร์ก็ได้เข้าไปดำเนินการเก็บรักษาร่างของเธอทันที โดยกระบวนการทั้งหมด เกิดขึ้นภายใน 2 นาทีนับจากที่เธอจากไป

 

Sponsored Ad

 

        ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกนำไปทิ้งไว้ในถังแช่แข็งเพื่อรักษาสภาพเป็นเวลา 50 ปี เขาได้ขอดูหน้าภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้าราวกับว่าเธอยังอยู่ในสภาพที่ผลอยหลับไป ซึ่งเขาหวังว่าอีก 50 ปีข้างหน้า เขาจะสามารถชุบชีวิตเธอกลับมาอีกครั้ง "การแช่แข็งภรรยาของผมอาจจะไม่ได้มีประโยชน์แค่กับครอบครัวเราเท่านั้น แต่มันยังช่วยแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางการแพทย์อีกด้วย" นายเกว๋ย จวิ๋นหมิง กล่าว

 

Sponsored Ad

 

        สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขออกมาอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามก็มีการประเมินกันไว้ว่าอาจจะสูงถึง 116,000 หยวน (ราว 540,000 บาท)

        สำหรับการแช่งแข็งรักษาร่างกายด้วยวิธีไครโอนิกเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1967 กับร่างของ เจมส์ เบดฟอร์ด นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ส่วนในปัจจุบันมีการใช้วิธีไครโอนิกรักษาร่างกายมนุษย์ไว้ราว 350 กรณีจากทั่วโลกแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครถูกถูกทำให้ฟื้นกลับขึ้นมาได้ วิธีการชุบชีวิตร่างแช่แข็งยังคงอยู่ในช่วงการศึกษาวิจัยอยู่ในตอนนี้ 

 

Sponsored Ad

 

        และปัจจุบันมี 10 คนที่เข้าสู่กระบวนการแช่แข็ง มีอายุระหว่าง 13-72 ปี และผ่านการรับผิดชอบโดยสถาบันดังกล่าวทุกคน 

ที่มา : dailymail, thepaper

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ